ใคร ๆ ก็อยากมีดวงตาที่สวยงามและดูโดดเด่น แต่หลายคนกลับต้องเจอปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน ตาหลบใน หรือมีตาชั้นเดียว การทำตาสองชั้นจึงเป็นหนึ่งในศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำ มาดูกันว่าการทำตาสองชั้นมีกี่เทคนิค? ต้องเตรียมตัวอย่างไร? และมีวิธีดูแลหลังทำตาสองชั้นอย่างไรบ้าง? รวมถึงข้อห้ามที่ควรรู้ เพื่อให้ได้ดวงตาที่สวยงาม ปลอดภัย
ศัลยกรรมตาสองชั้น คืออะไร
ศัลยกรรมตาสองชั้น หรือการทำตาสองชั้น เป็นการผ่าตัดเพื่อสร้างรอยพับที่เปลือกตาบน ทำให้เกิดชั้นตาที่ชัดเจนขึ้น และยังสามารถแก้ปัญหาในคนที่มีปัญหาตาเล็ก หางตาตก ชั้นตาหลบใน ช่วยให้ดวงตาดูกลมโต สดใส มีเสน่ห์ และเสริมความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ทำไมถึงควรทำตาสองชั้น
การทําตา 2 ชั้นสามารถปรับปรุงทั้งด้านความสวยงามและการทำงานของดวงตา สำหรับผู้ที่มีปัญหาตาชั้นเดียว เปลือกตาหนา หรือชั้นตาไม่ชัด การทําตา 2 ชั้นจะช่วยให้ดวงตาดูสดใส และกลมโตขึ้น ทำให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น โดยเฉพาะการทาอายแชโดว์และติดขนตาปลอม
นอกจากด้านความสวยงามแล้ว การทำตาสองชั้นยังช่วยแก้ไขปัญหาการมองเห็นในผู้ที่มีเปลือกตาหนาหรือหนังตาตก ซึ่งอาจรบกวนลานสายตาและทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน การผ่าตัดจะช่วยยกเปลือกตาให้เปิดกว้างขึ้น ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ลดอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อตาที่ต้องพยายามเปิดตากว้างตลอดเวลา
ตาแบบไหนที่ควรทำตาสองชั้น
คนที่มีลักษณะตาชั้นเดียว
ตาชั้นเดียวเป็นลักษณะที่พบได้บ่อยในคนเอเชีย โดยมีลักษณะเด่นคือเปลือกตาบนมีความหนาและไม่มีรอยพับของชั้นตา ส่งผลให้ดวงตาดูเล็กกว่าความเป็นจริง ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามแล้ว ยังอาจกระทบต่อการมองเห็นและการแสดงออกทางสีหน้าอีกด้วย การทำศัลยกรรมตาสองชั้นจึงสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
คนที่มีปัญหาตาสองชั้นหลบใน
ตาสองชั้นหลบในเป็นลักษณะที่มีรอยพับของชั้นตาอยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่รอยพับนั้นไม่ชัดเจนและมักจะมองไม่เห็นเมื่อลืมตา ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใสและมีลักษณะคล้ายคนง่วงนอน การทำศัลยกรรมตาสองชั้นในกรณีนี้จะช่วยสร้างชั้นตาที่ชัดเจนและคงทนถาวร ทำให้ดวงตาดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
คนที่มีปัญหาหนังตาตก ตาปรือ
ภาวะหนังตาตกและตาปรือมักเกิดจากความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อยกเปลือกตาบน ทำให้เปลือกตาบนตกลงมาปิดทับตาดำมากกว่าปกติ ในกรณีที่เป็นมาก อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและทำให้ผู้ป่วยต้องเงยหน้าหรือใช้นิ้วช่วยยกเปลือกตาเพื่อให้มองเห็นได้ชัดขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนเพลียและขาดความกระฉับกระเฉง การทำศัลยกรรมตาสองชั้นร่วมกับการแก้ไขกล้ามเนื้อตาจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คนที่ลักษณะชั้นตาไม่เท่ากัน
ชั้นตาไม่เท่ากันส่งผลต่อความมั่นใจ การทำศัลยกรรมตาสองชั้นสามารถช่วยปรับแต่งชั้นตาทั้งสองข้างให้มีความสมดุลและสวยงามเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยแพทย์จะวางแผนการผ่าตัดเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ทำตาสองชั้น กับผ่าตัดแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเหมือนกันไหม
การทำตาสองชั้น และการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยการทำตาสองชั้นเป็นเพียงการสร้างรอยพับของชั้นตาขึ้นใหม่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปรับแต่งกล้ามเนื้อตา ในขณะที่การแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อนกว่า เนื่องจากต้องเข้าไปปรับแต่งกล้ามเนื้อที่ควบคุมการลืมตาให้แข็งแรงขึ้น โดยประกอบด้วยขั้นตอนการยกกล้ามเนื้อตาให้ได้รูปทรง และการกำหนดชั้นตาใหม่ให้สวยงามเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม สามารถทำการผ่าตัดทั้งสองอย่างไปพร้อมกันได้
เทคนิคการทำตาสองชั้น มีกี่แบบ
ในปัจจุบันเทคนิคการทำตาสองชั้นมีหลายเทคนิค เพื่อแก้ไขปรับรูปตาของคนไข้ได้อย่างตรงจุด ได้แก่
1. เทคนิคกรีดตายาว
เทคนิคกรีดตายาวเป็นวิธีที่แพทย์จะทำการกรีดเปลือกตาตามแนวยาว จากหัวตาไปจนถึงหางตา โดยตำแหน่งของรอยกรีดจะเป็นตำแหน่งของชั้นตาที่ต้องการ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีตาชั้นเดียว ตาเล็ก ตาหลบใน มีเปลือกตาหนามาก หรือมีไขมันใต้เปลือกตามากเกินไป เพราะสามารถกำจัดเนื้อเยื่อและไขมันส่วนเกินออกได้ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงทนถาวร แต่จะมีรอยแผลเป็นยาวตลอดแนวตา และมีอาการบวมมากกว่าและนานกว่าวิธีอื่นๆ
เทคนิคกรีดตายาว เหมาะกับใคร
เทคนิคกรีดตายาวเหมาะกับผู้ที่มีเปลือกตาหนามาก มีไขมันใต้ตามากเกินไป มีปัญหาตาหลบใน ตาเล็ก หรือคนที่ทำตาสองชั้นที่อื่นมาแล้วต้องการแก้ตา
ข้อดีของเทคนิคกรีดตายาว
เทคนิคนี้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างครอบคลุม ทั้งการกำจัดไขมันส่วนเกิน แก้ปัญหาหนังตาตก และหางตาตก และการสร้างชั้นตาใหม่ได้ตามต้องการ แพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในได้ชัดเจน ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
ข้อเสียของเทคนิคกรีดตายาว
การผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้จะทิ้งรอยแผลเป็นตามแนวการกรีด ใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่าวิธีอื่น และมักมีอาการบวมช้ำค่อนข้างมากในช่วงแรก ผู้เข้ารับการผ่าตัดจำเป็นต้องวางแผนเรื่องการพักฟื้นให้เพียงพอ และต้องดูแลแผลอย่างระมัดระวังเพื่อให้หายสนิท
2. เทคนิคกรีดตาสั้น
เทคนิคกรีดตาสั้นเป็นการกรีดเปลือกตาเพียงบางส่วน โดยมักจะกรีดบริเวณกลางเปลือกตา โดยไม่มีการตัดหนังตา หรือไขมันเปลือกตาเกินออก และใช้ไหมเย็บชั้นตา วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเปลือกตาไม่หนามากนัก ไขมันเปลือกตาน้อย หรือต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ข้อดีคือมีแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว แต่อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีเปลือกตาหนามากหรือมีไขมันใต้ตามาก
เทคนิคกรีดตาสั้นเหมาะกับใคร
เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีตาชั้นเดียว ตาสองชั้นหลบใน ชั้นตาเล็ก หนังตาไม่หย่อนคล้อย มีไขมันใต้ตาไม่มากนัก และต้องการชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดีของเทคนิคกรีดตาสั้น
มีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก ทำให้ฟื้นตัวได้เร็วกว่าและมีอาการบวมช้ำน้อยกว่า ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขเพียงเล็กน้อย
ข้อเสียของเทคนิคกรีดตาสั้น
ข้อจำกัดหลักของเทคนิคนี้ คือไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ เช่น กรณีที่มีไขมันใต้ตามากหรือเปลือกตาหนามาก นอกจากนี้การสร้างชั้นตาอาจไม่ชัดเจนเท่าการกรีดยาว และในบางกรณีอาจต้องแก้ไขซ้ำหากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
3. เทคนิคกรีดยาวหางหงส์
เทคนิคกรีดยาวหางหงส์เป็นการผสมผสานระหว่างการกรีดยาวและการสร้างหางตาให้ยกเฉียงขึ้น หากคนไข้มีไขมันบริเวณเปลือกตามาก หรือเปลือกตาหนา แพทย์จะทำการตัดไขมันหรือเปลือกตาส่วนเกินออก จากนั้นจะเย็บชั้นเปลือกตาให้สวยงาม วิธีนี้นอกจากจะสร้างชั้นตาแล้ว ยังช่วยให้หางตายกขึ้น ทำให้ดวงตาดูคมและมีเสน่ห์มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหางตาตกพร้อมกับการทำตาสองชั้น
เทคนิคกรีดยาวหางหงส์เหมาะกับใคร
เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหางตาตก ต้องการแก้ไขทั้งชั้นตาและหางตาในคราวเดียวกัน หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มความมีเสน่ห์ให้ดวงตาโดยการยกหางตาให้สูงขึ้น
ข้อดีของเทคนิคกรีดยาวหางหงส์
เทคนิคนี้ช่วยแก้ไขปัญหาได้ครบถ้วนในครั้งเดียว ทั้งการสร้างชั้นตาและการยกหางตา ทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์และสดใสมากขึ้น
ข้อเสียของเทคนิคกรีดยาวหางหงส์
อาจมีรอยแผลเป็นที่ชัดเจน มีโอกาสเกิดตีนกาเวลายิ้มได้ หากมีการกรีดชั้นตาที่ยาวเกินไป
4. เทคนิคแบบเย็บ 3 จุด
เทคนิคเย็บ 3 จุดเป็นวิธีการผ่าตัดแบบไม่กรีดผิวหนัง โดยแพทย์จะทำการเย็บเปลือกตาที่จุดสำคัญ 3 จุด และใช้ไหมเย็บยึดระหว่างจุด เพื่อสร้างชั้นตาใหม่ เทคนิคนี้เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ มีแผลผ่าตัดน้อย และต้องการระยะเวลาพักฟื้นสั้น
เทคนิคแบบเย็บ 3 จุดเหมาะกับใคร
เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีตาชั้นเดียว เปลือกตาบาง ไม่มีไขมันใต้ตามากเกินไป และต้องการชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดีของเทคนิคแบบเย็บ 3 จุด
ข้อดีคือแทบไม่มีแผลผ่าตัด ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย ฟื้นตัวเร็ว และมีอาการบวมช้ำน้อยมาก ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถกลับไปทำงานได้เร็ว
ข้อเสียของเทคนิคแบบเย็บ 3 จุด
ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาซับซ้อน เช่น มีไขมันใต้ตามาก หรือเปลือกตาหนา ชั้นตาอาจไม่ชัดเจนเท่าวิธีกรีด และในบางรายอาจเกิดปัญหาไหมเย็บหลุด ทำให้ต้องทำซ้ำ
5. เทคนิคเลเซอร์ Plexr
เทคนิค Plexr เป็นนวัตกรรมการทำตาสองชั้นโดยยิงเลเซอร์ไปที่หนังตาทำให้หนังตามี 2 ชั้นขึ้นมา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยเลเซอร์จะให้ความร้อนที่ผิวหนังประมาณ 60 องศาเซลเซียส สามารถทำให้ผิวหนังในบริเวณที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับ และเกิดเป็นชั้นตาได้
เทคนิคเลเซอร์ Plexr เหมาะกับใคร
เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่ที่มีตาสองชั้นแต่ชั้นตาหย่อนคล้อย หนังตาตก รวมทั้งผู้ที่กลัวการผ่าตัด หรือไม่ต้องการมีแผลผ่าตัด
ข้อดีของเทคนิคเลเซอร์ Plexr
ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น ใช้เวลาในการทำน้อย มีความเสี่ยงน้อย และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว
ข้อเสียของเทคนิคเลเซอร์ Plexr
ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าการผ่าตัด และอาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ และไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาซับซ้อน เช่น มีไขมันใต้ตามาก หรือเปลือกตาหนามาก
6. เทคนิคการทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตา
เทคนิคนี้เป็นการผสมผสานระหว่างการทำตาสองชั้นและการเปิดหัวตา เพื่อให้บริเวณหัวตาโตและดูกว้างขึ้น เห็นชั้นตาบริเวณหัวตาชัดขึ้น และความโค้งของชั้นตาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่า ใครเหมาะกับเทคนิคนี้ เพราะหากมีมุมหัวตาเปิดอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดหัวตาร่วมด้วย
เทคนิคการทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตาเหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่หัวตาปิดลงมาถึงขอบตาล่าง ผู้ที่อยากได้ชั้นตาใหญ่ แต่มีหัวตาปิด และผู้ที่หนังตาลงมาปิดบริเวณหัวตามาก ทำให้ตาดูเหล่
ข้อดีของเทคนิคการทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตา
ทำให้เห็นชั้นตาตั้งแต่บริเวณหัวตาจนถึงหางตา ทำให้ดวงตาดูสมดุล กลมโต และเรียวยาวขึ้น
ข้อเสียของเทคนิคการทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตา
หากเกิดแผลเป็นที่บริเวณหัวตา จะมองเห็นรอยแผลบริเวณหัวตาชัดมาก
ทำตาสองชั้นที่ Fern Clinic ใช้เทคนิค “Fine Ansle Eyes”
ทำตาสองชั้นที่ Fern Clinic คุณหมอใช้เทคนิคพิเศษที่เรียกว่า “Fine Ansle Eyes” เป็นเทคนิคที่เน้นการประเมินและแก้ไขปัญหาแบบ Case by Case เนื่องจากคนไข้แต่ละคนมีปัญหาตาหลายรูปแบบ ทำให้ต้องใช้เทคนิคการแก้ปัญหาตาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยคุณหมอจะฟิคชั้นตาใหม่ ด้วยเทคนิคพิเศษ และผ่าตัดตาสองชั้นร่วมกับการตัดหนังตาตกหย่อน ยกกระชับชั้นตา ตัดไขมันใต้ชั้นตา พร้อมจัดเรียงไขมัน ช่วยให้ชั้นตาชัด ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เสถียรสูง เมื่อชั้นตาเข้าที่ จะกลมโต สดใสขึ้น
ทำตาสองชั้นทรงไหนดี
ทรงตาสองชั้นมีให้เลือกหลายรูปแบบ โดยแต่ละรูปแบบจะมีจุดเด่นที่เหมาะสมกับลักษณะตาของแต่ละคน ในบทความนี้ขอยกตัวอย่าง 4 ทรงตาสองชั้นยอดฮิต ที่ใครหลาย ๆ คนเลือกทำ ตามนี้เลย
- ตาสองชั้นสายฝอ มีรอยพับชั้นตาเรียวยาวโค้งรับกับดวงตา หัวตาเปิดกว้าง ดูมีเสน่ห์ เหมาะกับคนที่มีดวงตาใหญ่ หรือคนที่ต้องการเสริมภาพลักษณ์ให้ดูเป็นสาวมั่น
- ตาสองชั้นสายเกา มีรอยพับชั้นตาลึก ชัดเจน แต่ชั้นตาไม่หนา ดูเป็นธรรมชาติ หวานละมุน เหมาะกับคนที่มีลักษณะดวงตาไม่ใหญ่มากนัก หรือคนที่มีตาชั้นเดียว
- ตาสองชั้นหางหงส์ เป็นทรงที่นอกจากจะสร้างชั้นตาแล้ว ยังยกหางตาให้สูงขึ้นเหนือหัวตาเล็กน้อย ทำให้ดวงตาดูคมและมีเสน่ห์ เหมาะกับคนที่ต้องการลุคที่ดูคมและเฉี่ยวมากขึ้น
- ตาสองชั้นสไตล์บาร์บี้ มีชั้นตาชัดเจน โค้งเป็นเส้นขนานตั้งแต่หัวตาถึงหางตา ทำให้ตากลมโต หวานเหมือนบาร์บี้ อ่อนกว่าวัย
ทําตา 2 ชั้น ราคาเท่าไร
การทำตา 2 ชั้น ราคาจะแตกต่างกันในแต่ละคลินิกทำตา รวมไปถึงเทคนิคที่ใช้ ความซับซ้อนของการผ่าตัด และประสบการณ์ของแพทย์ อย่างที่ Fern Clinic ราคาเริ่มต้นที่ 35,900 – 45,900 บาท
การเตรียมตัวก่อนทำตาสองชั้น
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและเลือกเทคนิคที่เหมาะสม
- แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ยาที่รับประทานเป็นประจำ และประวัติการผ่าตัด ให้แพทย์ทราบ
- งดวิตามิน อาหารเสริม อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- ถอดคอนแทคเลนส์และขนตาปลอมก่อนทำการผ่าตัด
ขั้นตอนการทำตาสองชั้น
ขั้นตอนหลัก ๆ ของการศัลยกรรมตาสองชั้นมีดังต่อไปนี้
- แพทย์จะทำการวาดและกำหนดจุดที่จะทำการผ่าตัด
- ให้ยาชา หรือการดมยาสลบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
- ทำการกรีดเปลือกตาตามแนวที่กำหนดไว้
- กำจัดไขมันและเนื้อเยื่อส่วนเกินออก (ถ้าจำเป็น)
- สร้างรอยพับชั้นตาโดยการเย็บยึด
- เย็บปิดแผลด้วยไหมละเอียด
การดูแลตัวเองหลังทำตาสองชั้น
- ประคบเย็นรอบดวงตาและหน้าผาก ในช่วง 1-2 วันแรก เพื่อลดอาการบวมและลดเลือดซึม จากนั้นในวันที่ 3-5 ให้ประคบด้วยน้ำอุ่นเพื่อลดรอยช้ำ
- นอนหนุนหมอนสูงใน 1-2 คืนแรก เพื่อลดอาการบวม
- ทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวด
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือสัมผัสบริเวณที่ผ่าตัดโดยตรง
- ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เหล้า ไข่ อาหารทะเล 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลนูนคัน
- ใส่แว่นตากันลมฝุ่น สิ่งสกปรก เวลาออกไปข้างนอก
- ทำความสะอาดบริเวณแผลตามคำแนะนำของแพทย์
- งดแต่งหน้า งดใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า จนกว่าแพทย์จะอนุญาต
- มาพบแพทย์ ใบตามนัด
ผลข้างเคียงหลังทำตาสองชั้น
หลังการทำตา2ชั้น อาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการชั่วคราวและสามารถหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ เช่น อาการบวม รอยช้ำ ตาแห้ง หลับตาไม่สนิทเล็กน้อย หรือระคายเคือง แต่กรณีที่พบภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น การติดเชื้อ แผลเปิด หรือความไม่สมมาตรของชั้นตา ต้องรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา หรือแก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น การเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและการปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำตาสองชั้น
1. หลังทำตา2ชั้น ห้ามอะไรบ้าง
- ห้ามขยี้ตาหรือสัมผัสบริเวณที่ผ่าตัดโดยตรง
- ห้ามแผลโดนน้ำอย่างน้อย 10 วัน หรือหลังจากตัดไหม 3 วัน
- ห้ามรับประทานอาหารหมักดอง เหล้า ไข่ อาหารทะเล 2 สัปดาห์
- ห้ามแต่งหน้า โดยจะเริ่มแต่งหน้าได้หลังจากที่ตัดไหมออกแล้ว แต่แนะนำให้เว้นบริเวณรอบดวงตาไปก่อนจนกว่าจะครบ 1 เดือน
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์
2. ทำตา2ชั้น กี่วันขับรถได้
จนกว่าอาการบวมจะลดลงและสามารถมองเห็นได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
3. ทำตา2ชั้น ใช้เวลากี่ชม.
ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้และความซับซ้อนของการผ่าตัด
4. ทำตา2ชั้น กี่วันหาย
อาการบวมส่วนใหญ่จะลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์แรก และจะเริ่มเข้าที่เร็วที่สุด 4 เดือน แต่อาจจะยังหลงเหลือความบวมเล็กน้อย และเข้าที่แบบ 100% ชั้นตายุบบวมอย่างเต็มที่ 6 เดือนขึ้นไป
5. หลังทำตา2ชั้น จะใส่คอนแทคเลนส์ได้เมื่อไร
ควรรอประมาณ 3-4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด จึงจะสามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่แน่นอนขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของแต่ละบุคคล
สรุป
การทำตาสองชั้น สามารถเปลี่ยนแปลงลุคได้อย่างมาก โดยต้องพิจารณาให้รอบคอบ เข้าปรึกษากับแพทย์โดยตรง เพื่อเลือกเทคนิคและทรงชั้นตาที่เหมาะสมกับรูปหน้าและความต้องการมากที่สุด สำหรับใครที่อยากทำตาสองชั้น แต่ยังมีข้อสงสัยอื่น ๆ สามารถมาปรึกษาจองคิวคุณหมอเฟิร์นได้ฟรีไม่มีเสียค่าใช้จ่าย