ปัจจุบันดอลลี่อายเป็นที่นิยมอย่างมากและเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงในเอเชีย ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่อยากจะให้ดวงตาสดใส น่ารัก แบบสาวญี่ปุ่น เกาหลี เพิ่มมิติความหวานให้ดวงตาและใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ แต่ก็มีอีกหลายคนที่อยากจะแก้ไขปัญหาในด้านของใต้ตาเผื่อให้เกิดความสมดุลของใบหน้า และมีอีกหลายๆคนมักจะเข้าใจผิดระหว่างดอลลี่อายกับถุงใต้ตา ว่าเป็นแบบเดียวกัน วันนี้เราจะมาบอกถึงความแตกต่างของดอลลี่อายกับถุงใต้ตา
ดอลลี่อาย คืออะไร
ดอลลี่อาย คือ ลักษณะใต้ตาที่คล้ายกับตาตุ๊กตา คล้ายกับดาราเกาหลีโดยมีลักษณะเด่นคือ เป็นมัดกล้ามเนื้อที่อยู่ขอบตาล่างที่มีรูปร่างชัดเจน มีความโค้งนูน นุ่มนวลและกลมโต ดูแบ๊ว ใบหน้าดูหวานมีมิติมากขึ้น ตามสไตล์เกาหลี ต่อมาจึงเกิดความนิยมขึ้นในประเทศไทย ตามจริงแล้วนั้นมัดกล้ามเนื้อบริเวณขอบตาล่าง จะเป็นกล้ามเนื้อที่ทุกคนมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่ละคนจะมีในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป แต่เมื่อเริ่มมีอายุ กล้ามเนื้อตรงนี้ก็จะบางลง หรืออาจมีถุงใต้ตาที่ใหญ่ขึ้นจนมาทำให้บดบังบริเวณส่วนนี้
ดอลลี่อายกับถุงใต้ตา แตกต่างกันอย่างไร
ดอลลี่อายกับถุงใต้ตา เป็นสองอาการที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้
- ดอลลี่อาย
เป็นมัดกล้ามเนื้อของขอบตาล่าง ที่ทำให้ดูเหมือนตาของตุ๊กตา โดยมักจะมีลักษณะโค้งนูนอย่างชัดเจน อยู่ตรงตำแหน่งแค่บริเวณขอบตาล่าง ที่ทำให้ใบหน้าดูหวานดูแบ๊ว
- ถุงใต้ตา
เป็นส่วนของผิวหนังใต้ตาที่ดูบวม ไม่เป็นรูปเป็นร่าง ไม่สมดุลกับใบหน้า ทำให้ดูโทรม ดูมีอายุ ซึ่งถุงใต้ตาอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การสะสมของไขมันใต้ผิวหนังหรือคอลลาเจนใต้ดวงตาลดลง เป็นต้น
ถุงใต้ตา คืออะไร
ถุงใต้ตา หมายถึงอาการที่เกิดขึ้นเมื่อมีการสะสมของไขมันใต้ตา lower eyelid bags หรือเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังใต้ตา ทำให้มีลักษณะเป็นถุงใต้ตาที่ดูบวมขึ้น เป็นสภาวะที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำ และส่วนใหญ่พบได้ในผู้ที่มีอายุมากขึ้น แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกวัย ตามสาเหตุต่าง ๆ เช่น การไม่ได้นอนพักผ่อนเพียงพอ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมาก การสูบบุหรี่ การดื่มน้ำ การกินอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงเป็นต้น
การรักษาถุงใต้ตามักเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต เช่น การนอนพักผ่อนเพียงพอ การลดการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ การลดการบริโภคอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง การใช้เครื่องสำอางที่เหมาะสม และการใช้วิธีรักษาอื่น ๆ เช่น การใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่เหมาะสม และการผ่าตัดถุงใต้ตาโดยแพทย์
รีวิวตัดถุงใต้ตา โดย Fern Clinic
ดอลลี่อาย เกิดจากอะไร
ดอลลี่อายเกิดขึ้นได้ 2 แบบ ได้แก่
- ดอลลี่อายธรรมชาติ คือ ดอลลี่อายที่เกิดจากมัดกล้ามเนื้อบริเวณขอบตาล่างที่มีลักษณะโค้งนูนออกมา จะเห็นได้ชัดเวลาที่กำลังยิ้ม ซึ่งดอลลี่อายที่เกิดจากกล้ามเนื้อชนิดนี้จะเกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยเฉพาะตอนที่ยังเด็ก
- ดอลลี่อายที่จากการทำ คือ การเพิ่มดอลลี่อายเข้าไปเพิ่ม โดยการฉีดเข้าไปบริเวณใต้ดวงตา ชิดขอบแนวขนตา เพื่อเพิ่มความนูนของขอบตาล่าง สำหรับผู้ที่ไม่มีดอลลี่อายเลย หรือมีบริมาณน้อย
วิธีทำดอลลี่อาย
1. การใช้เมคอัพหรือการแต่งหน้า
การใช้เมคอัพหรือการแต่งหน้า เช่น การใช้เมคอัพที่เน้นการปรับแต่งใต้ดวงตาให้ดูมีดอลลี่อาย การใช้คอนซีลเลอร์เพื่อเพิ่มความนูนชัด เป็นการสร้างลุคที่น่ารักและตากลมโตได้ด้วยตนเอง เป็นดอลลี่อายธรรมชาติ
2. การฉีดฟิลเลอร์ดอลลี่อาย
การฉีดฟิลเลอร์ดอลลี่อาย คือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยการเต็มสารเข้าไปบริเวณขอบตาล่างชิดขนตาในแนวนอน เพื่อเสริมให้ขอบตาล่างโค้งมนหนาขึ้น เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและใช้เวลาไม่นานทั้งการขั้นตอนการฉีดและเวลาพักฟื้น เพียง 1 CC หลังฉีดก็จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที
3. การเติมไขมัน
การเติมไขมัน คือเทคนิคการฉีดด้วยการเติมไขมันไปที่ใต้ตา เป็นการนำไขมันจากบริเวณอื่นของร่างกาย มาเติมบริเวณขอบตา โดยผ่านกระบวนการอย่างวิธีโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ แต่ก็เป็นวิธีที่ไม่แนะนำสักเท่าไร เนื่องจาก ผลลัพธ์ที่อาจจะไม่ได้แน่นอน 100% เพราะไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจปลูกไม่ติด (เซลล์ตาย) ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดอาจจะเรียบไม่เสมอกันได้
ดอลลี่อายเหมาะกับใคร
การทำดอลลี่อายจะทำให้ตาดูเหมือนตาของตุ๊กตา ปรับใบหน้าให้ดูหวาน น่ารัก และนุ่มนวล ดังนั้น คนที่เหมาะกับการทำดอลลี่อาย ได้แก่
- คนที่มีสไตล์น่ารัก ชื่นชอบลุคน่ารักและนุ่มนวล การทำดอลลี่อายจะช่วยเสริมความน่ารักให้กับลุคของตนเอง
- คนที่ต้องการความมั่นใจ โดยดอลลี่อายจะกลายเป็นจุดเด่นของใบหน้า ทำให้รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น และเป็นที่ชื่นชอบของคนพบเห็น
- คนที่ต้องการสร้างความสมดุลของดวงตา ดอลลี่อายจะช่วยให้ตาดูมีลักษณะที่กลมโตมากขึ้น มีรูปร่างลักษณะที่เข้ากับใบหน้า ซึ่งเป็นที่ต้องการสำหรับคนที่อยากให้ดวงตาเป็นจุดเด่น
ข้อควรระวังในการฉีดดอลลี่อาย
การทำการฉีดดอลลี่อาย เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่นิยมอย่างมากในปัจุบัน แต่ก็มีความเสี่ยงและข้อควรระวัง ดังนี้
- ควรฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและมีประสบการณ์ เนื่องจากบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่มีเส้นเลือดเยอะ ต้องพิถีพิถันและระมัดระวัง
- ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและคำปรึกษาของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
- หลังฉีดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น บวม บริเวณตา ตาแดง หรือตาแห้ง เป็นต้น
- ทั้งการฉีดฟิลเลอร์และการฉีดไขมัน แพทย์ต้องประเมินปริมาณฟิลเลอร์และไขมันที่จะใช้ให้เหมาะสมในแต่ละเคส เพราะหากฉีดปริมาณมากเกินไป จะทำให้ใต้ตาไม่พอดี มองแล้วไม่สวยงาม
- ควรพิจารณาค่าใช้จ่าย เนื่องจากการฉีดหนึ่งครั้งมีค่าใช้จ่ายสูง และบางครั้งอาจต้องมีการทำซ้ำหลายครั้ง
ดอลลี่อายผู้ชายทำได้ไหม
การฉีดดอลลี่อายไม่ได้มีเฉพาะในผู้หญิง ดอลลี่อายผู้ชายก็มีเช่นกัน ซึ่งการทำดอลลี่อายของผู้หญิงกับผู้ชายนั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก อาจจะแตกต่างกันตรงขนาดความหนาของดอลลี่อาย เพื่อให้เหมาะสมกับรูปทรงของใบหน้า โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจากโครงหน้าของคนไข้ที่เข้ารับบริการ
การดูแลหลังฉีดดอลลี่อาย
- งดการนวด หรือกดบริเวณที่ฉีด
- งดการออกกำลังกายหนักๆ เป็นเวลา 1-2 วัน
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ร้อน ทรีทเม้นต์ อาบน้ำร้อน หรือเข้าซาวน่า 14 วัน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 14 วัน เพราะจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
- งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
- งดล้างหรือขัดถูหน้าแรง ๆ
- งดอาหารเผ็ดร้อน อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารหมักดอง 14 วัน
ฉีดดอลลี่อาย ที่ไหนดี
ก่อนตัดสินใจฉีดดอลลี่อาย แนะนำให้พิจารณาเลือกคลินิก ตามข้อต่อไปนี้
- ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์
- คลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สะอาด น่าเข้าใช้บริการ
- ราคาคุ้มค่าสมเหตุสมผล ไม่ต่ำจนผิดปกติ และไม่สูงจนเกินไป
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ สามารถตรวจสอบเลข lot กับบริษัทนำเข้าได้
- ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
- มีช่องทางติดต่อได้สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อแพทย์ได้โดยตรง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดดอลลี่อาย
1. ฉีดดอลลี่อาย อันตรายไหม
การฉีดดอลลี่อายด้วยฟิลเลอร์จะไม่อันตราย หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ตัวยาแท้ ส่วนการฉีดด้วยไขมัน ก็ไม่อันตรายเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นการใช้ไขมันของตัวคนไข้เอง ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ได้
2. ฉีดแล้วกี่วันเห็นผล
การฉีดฟิลเลอร์ สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังจากการฉีด แต่การฉีดไขมัน จะขึ้นอยู่กับว่า เซลล์ไขมันจะปลูกติดหรือไม่ หากเซลล์ไขมันปลูกไม่ติดก็จะสลายตัว ทำให้ดอลลี่อายโค้งนูนได้น้อยลง และหากไขมันสลายไม่สม่ำเสมอ ก็จะทำให้เป็นคลื่น ผิวขรุขระ ไม่เรียบเนียนได้ ดังนั้นผลลัพธ์หลังฉีดดอลลี่อายด้วยไขมันมักไม่เห็นผลชัดเจน ในปัจจุบันจึงนิยมการฉีดด้วยฟิลเลอร์มากกว่า
3. ฉีดดอลลี่อาย อยู่ได้นานแค่ไหน
สำหรับดอลลี่อายจากการฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ และการดูแลตัวเอง ส่วนดอลลี่อายจากการฉีดไขมัน ผลการรักษาอยู่ได้นานถึง 3-5 ปี แต่เซลล์ไขมันก็อาจจะมีการฟ่อไปได้เช่นเดียวกัน
4. หลังฉีดฟิลเลอร์ดอลลี่อาย กี่วันถึงหายบวม
หลังฉีดอาจมีรอยแดงจากเข็มประมาณ 2-3 วัน ส่วนอาการบวมจะยุบลงภายใน 1-2 สัปดาห์
สรุป
ดอลลี่อายและถุงใต้ตาเป็นอาการที่แตกต่างกัน ไม่ใช่แบบเดียวกันตามความเข้าใจผิดของหลายๆคน ซึ่งจะแตกต่างกันทั้งในลักษณะ สาเหตุ และวิธีการรักษา หากใครที่ยังไม่มั่นใจว่าตนเองมีลักษณะเป็นแบบใด สามารถไปตรวจและปรึกษากับแพทย์ที่เฉพาะทางด้านนี้ได้ การตรวจรักษาและปรับปรุงสภาพของตาต้องเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ