“เบ้าตาลึก” หรือ “ตาโหล” เป็นปัญหาดวงตาที่พบบ่อย ซึ่งทำให้คุณดูแก่กว่าวัย เหนื่อยล้า ดูโทรม จนขาดความมั่นใจ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะบทความนี้จะมาเปิดสาเหตุพร้อมวิธีการแก้ไขและป้องกัน เพื่อให้คุณกลับมามีดวงตาที่สดใส เปล่งประกายอีกครั้ง
ลักษณะของเบ้าตาลึก ตาโหล
เบ้าตาลึกและตาโหลพบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โดยมีลักษณะเด่นชัดดังนี้
- เบ้าตาลึกลงไปกว่าปกติ ทำให้ดูเหมือนมีเงาใต้ตา
- ผิวใต้ตาบางลง เห็นเส้นเลือดชัดเจน
- ใต้ตามีถุงใต้ตาหรือรอยคล้ำ
- ดวงตาดูลึกเข้าไปในเบ้าตา ทำให้ดูเหนื่อยล้า
- ขอบตาล่างมีร่องลึก ทำให้ดูแก่กว่าวัย
เบ้าตาลึก ตาโหล เกิดจากอะไร
ปัญหาเบ้าตาลึกและตาโหลมีสาเหตุหลายประการ ดังนี้
- กรรมพันธุ์ บางคนมีโครงสร้างกระดูกใบหน้าที่ทำให้เกิดเบ้าตาลึกตั้งแต่กำเนิด
- อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันใต้ผิวหนังลดลง ทำให้เบ้าตาดูลึกมากขึ้น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดถุงใต้ตาและรอยคล้ำ
- กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จะพบร่องลึกอยู่เหนือเปลือกตา ทำให้เห็นเบ้าตาดูเป็นร่องและลึกกว่าปกติ
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเหี่ยวย่นเร็วขึ้น และบางลง จึงทำให้ใต้ตาดูลึกขึ้น
- เคยทำตาสองชั้นมาก่อน แต่แพทย์เอาไขมันใต้ชั้นตาออกมากเกินไป จึงทำให้ตาดูโหลเบ้าตาลึก
วิธีแก้เบ้าตาลึก ตาโหล
การแก้ไขปัญหามีทั้งแบบไม่ผ่าตัดและผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล
วิธีแก้แบบไม่ผ่าตัด
วิธีการแก้ไขแบบไม่ผ่าตัดเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและฟื้นตัวเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไม่รุนแรงมาก ซึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม ได้แก่
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่นิยมมาก เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นผลทันที โดยแพทย์จะฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในบริเวณใต้ตาเพื่อเพิ่มปริมาตร ทำให้เบ้าตาดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น ข้อดีของวิธีนี้คือไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาทำเพียง 15-30 นาที สามารถกลับบ้านได้ทันที และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
การเติมไขมัน
การเติมไขมันเป็นอีกวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยแพทย์ดูดไขมันออกมาจากบริเวณที่มีไขมันส่วนเกิน เช่น หน้าท้องหรือต้นขา จากนั้นนำไปปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมาใช้ ผสมกับเนื้อเยื่อไขมัน แล้วนำมาฉีดเติมในบริเวณใต้ตา ข้อดีของวิธีนี้คือใช้ไขมันของตัวเอง จึงไม่เกิดการแพ้ ผลลัพธ์ดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ แต่หลังจากนี้ ไขมันที่ฉีดมีโอกาสเสื่อมสลายได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น อายุมากขึ้น การลดน้ำหนัก รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีด
นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่สามารถทำได้เอง เช่น
- การใช้ครีมบำรุงผิวรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของวิตามินซีและเรตินอล เหมาะกับผู้ที่มีตาโหลและมีริ้วรอยใต้ตาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- การใช้มาส์กตาเย็นที่มีอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว เพื่อลดอาการบวม เพิ่มความชุ่มชื้น และลดความหมองคล้ำ
วิธีแก้แบบผ่าตัด
สำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ถาวรกว่า หรือมีโรคอื่นร่วมด้วย การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
การศัลยกรรมตาสองชั้น
การทำตาสองชั้นไม่เพียงแต่สร้างชั้นตาใหม่ แต่ยังช่วยแก้ปัญหาเบ้าตาลึกได้ด้วย โดยแพทย์จะเย็บกล้ามเนื้อให้มีความกระชับขึ้น และตัดหนังตาที่หย่อนคล้อยออกไป ทำให้ตาดูสดใสขึ้น เบ้าตาตื้นขึ้น ข้อดีของวิธีนี้คือให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและถาวร แต่จะทำในกรณีที่ไม่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย
การผ่าตัดรักษากล้ามเนื้ออ่อนแรง
ถ้าสาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง แพทย์จะผ่าตัดรักษากล้ามเนิ้อตาอ่อนแรงก่อน และทำร่วมกับการย้ายไขมัน ซึ่งจะทำให้เบ้าตาดูตื้นขึ้น โดยวิธีนี้เหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณเปลือกตาเพียงพอ
ป้องกันอย่างไร ไม่ให้เบ้าตาลึก ตาโหล
เราสามารถป้องกันปัญหาเบ้าตาลึกและตาโหลได้ดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
- ลดการดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรอบดวงตาเป็นประจำ เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
สรุปเรื่องเบ้าตาลึก ตาโหล
เบ้าตาลึกและตาโหลเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและผลลัพธ์ที่ต้องการ สุดท้าย การดูแลสุขภาพโดยรวมและการพักผ่อนที่เพียงพอเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและชะลอการเกิดปัญหานี้ได้
หากคุณกำลังประสบปัญหาเบ้าตาลึกหรือตาโหล Fern Clinic พร้อมให้คำปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และแนะนำวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของคุณมากที่สุด